บัสมาเลซิ่ง เสียชีวิต 27 ศพ ! เสียหลักพุ่งชนขอบถนน

รถบัสบรรทุกนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย ประสบเหตุเสียหลักพุ่งชนขอบแบ่งถนน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 27 คน บาดเจ็บ 10 คน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าสาเหตุอุบัติเหตุครั้งนี้อาจเพราะคนขับรถใช้ความเร็วสูง.....
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันจันทร์ 20 ธ.ค.ความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุรถบัสบรรทุกนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย ประสบเหตุเสียหลักพุ่งชนขอบแบ่งถนน หลังเดินทางกลับลงมาจากสถานที่ตั้งของ “คาเมรอน ไฮแลนด์” สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของมาเลเซียในรัฐเปรัค ทางภาคเหนือ เพื่อเดินทางกลับเข้ากรุงกัวลาลัมเปอร์ ก่อนต่อเครื่องบินเดินทางกลับประเทศไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 27 คน บาดเจ็บ 10 คน

ล่าสุดแหล่งข่าว เดอะ สตาร์ ออนไลน์ของมาเลเซีย ระบุอุบัติเหตุสยองเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาราว 11.30 -11.40 น. ของวันจันทร์ 20 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หรือช่วงเวลาเดียวกันตามเวลาประเทศไทย รถบัสคันดังกล่าวขนาด 2 ชั้น จดทะเบียนประกอบการในเมืองจิตรา รัฐเคดาห์ ดำเนินการโดยบริษัทซาน เอ็กเพรสส์ ฮอลิเดย์ บรรทุกผู้โดยสาร 37 คน เป็นคนไทย 34 คน มาเลเซีย 3 คน ผู้โดยสารมีเด็กๆด้วยหลายคน โดยรถบัสอยู่ระหว่างเดินทางกลับลงมาจากคาเมรอน ไฮแลนด์ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 15 บนถนนสายคาเมรอน ไฮแลนด์กับซิมปัง ปูไล จู่ๆรถบัสเกิดเสียหลักและพุ่งชนขอบคอนกรีตแบ่งกั้นถนนอย่างจัง ทำให้รถพลิกคว่ำตกข้างทางและจอดสงบนิ่งติดหน้าผาหิน ส่งผลให้ตัวถังรถบัสและส่วนหลังคาฉีกขาดพังเสียหายยับเยิน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยของมาเลเซียราว 100 นาย เร่งรุดไปยังที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 22 คน ผู้บาดเจ็บถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลราชาเปอร์ไมสุรี แต่มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย รวมผู้เสียชีวิต 27 ราย บาดเจ็บมากกว่า10 คน ในจำนวนเหยื่อเคราะห์ร้ายมีเด็กรวมอยู่ด้วยหลายคน รายชื่อผู้เสียชีวิตเบื้องต้นเป็นชาย 11 คน หญิง 15 คน รวมทั้งคนขับรถชาวมาเลเซีย ประกอบด้วยนายโอมาร์ ชาฮิดาน ชาวมาเลเซีย วัย 48 ปี นายชาร์การ์ต คณางสุวรรณ วัย 48 ปี ธันวารัตน์ พูลแสง วัย 36 ปี นัตธิยา ไอนิยิม วัย 50 ปี พูนพร พูลเสนี วัย 41 ปี สัมรวย สวาทเพชร วัย 48 ปี ดรุณี ส่งเสริม - ปุณทรี อัครราเชาว์ วานนต์ วัย 42 ปี โพธิธเนตร อัครราเชาว์ วานนต์ วัย 45 ปี รุ่งดา - สุจันธิดา ชัยเอื้อย วัย 40 ปี ศรีไว สวาทเพชร วัย 22 ปี ปริญญา ปราชญ์สกุลชัย วัย 48 ปี ชุตินา ธรูกูล วัย 25 ปี ธิติศักดิ์ พงษ์ธนรัตน์ วัย 51 ปี จันเพ็ญ พงษ์ธนรัตน์ วัย 50 ปี ประยงค์ ครัวจินลี วัย 49 ปี และเอกชัย ณ บางช้าง วัย 64 ปี

นายอามินุดดิน อับดุล ราฮิม โฆษกหน่วยงานดับเพลิงและกู้ภัยของมาเลเซีย ระบุยอดผู้เสียชีวิตเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ 22 ราย ผู้บาดเจ็บมากราว 15 คน ส่วนนายซาคาเรีย ยูซูฟ รักษาการณ์หัวหน้าตำรวจรัฐเปรัค ระบุยืนยันผู้โดยสารบนรถบัสเกือบทั้งหมดเป็นคนไทย

ข่าวแจ้งว่า ถนนเส้นทางระหว่างทางหลวงของมาเลเซียขึ้นไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวคาเมรอน ไฮแลนด์ เป็นทางแคบ สูงชันเป็นช่วงๆ วกวนและอันตราย อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแก่รถบัสนักท่องเที่ยวไทยครั้งนี้ เกิดขึ้นช่วงขาลงบริเวณใกล้พื้นราบแล้ว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าสาเหตุอุบัติเหตุครั้งนี้อาจเพราะคนขับรถใช้ความเร็วสูง ระหว่างลงเขาหรือไม่ก็เบรคแตก โศกนาฏกรรมครั้งนี้ถือเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งใหญ่ที่สุดของมาเลเซียใน รอบหลายปี ทั้งนี้ แม้อุบัติเหตุทางรถยนต์ในมาเลเซียเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่อุบัติเหตุจะเกิดขึ้นแก่รถบัสสายวิ่งระหว่างรัฐ ซึ่งบ่อยครั้งเจ้าหน้าที่พบพนักงานขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ทั้งใช้ความเร็วสูงและขับรถภายใต้สภาวะมึนเมายาบ้า หรือยาเสพติดที่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหลายครั้งถูกชี้ไปที่บริษัทรถบัสนำเที่ยวมักว่าจ้าง พนักงานขับรถที่ยังขาดการฝึกอบอรมและไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะอย่าง ถูกต้อง ขณะที่กฏหมายมาเลเซียจำกัดความเร็วรถยนต์บนถนนหลวงอยู่ที่ 110 กม.ต่อชั่วโมง ส่วนสถิติอุบัติเหตุการจราจรของมาเลเซียตามรายงานขององค์การอนามัยโลกเมื่อ ปี 2552 ติดอันดับสูงที่สุดในกลุ่มชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อัตราการเสียชีวิตของประชากรอยู่ที่ 23.6 คน ต่อจำนวนประชากร 100,000 คน อุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งร้ายแรงในมาเลเซียก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ ที่แล้ว รถบัสบรรทุกเจ้าหน้าที่เรือนจำแห่งหนึ่งเสียหลักพุ่งตกคูน้ำข้างถนน หลังเดินทางกลับจากการแข่งขันกีฬา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย

ก่อนหน้านั้น เมื่อเดือนต.ค. รถบัส 2 คัน ชนกันกับรถยนต์อีก 3 คัน บนถนนหลวงสายเหนือมุ่งสู่ภาคใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และเมื่อปีท่ีแล้วอุบัติเหตุรถบัส 2 ชั้น แล่นชนขอบทางแบ่งถนนในรัฐอีปูห์ ทางภาคเหนือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย ส่วนอุบัติเหตุทางรถยนต์โดยสารครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มาเลเซีย เกิดขึ้นเมื่อปี 2550 รถบัสคันหนึ่งพลิกคว่ำคร่าชีวิตผู้โดยสาร 22 ราย นายธนะ ดวงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ.กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลเดินทางไปตรวจสอบเหตุการณ์และประสานความร่วมมือ กับเจ้าหน้าที่ทางการมาเลเซียอย่างใกล้ชิด โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลใช้เวลาเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปถึงรัฐเปรัคนา นราว 2 ชั่วโมง เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป
 tag:thairath,บัสมาเลซิ่ง ดับ 27 ศพ,รถพลิกคว่ำ,นักท่องเที่ยวเสียชีวิต